วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558


ขิงดอง



   ห่างหายไปนานกับการทำอาหารง่ายๆสไตล์กับข้าวกับปลา (หลุดเข้าไปอยู่ในพื้นที่ไร้อินเตอร์เน็ต(จริงๆขี้เกลียดก็ว่ากันไป)) แน่นอนว่ากลับมาคราวนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมาแจกเพื่อนๆที่ยังแอบเข้าส่องเป็นระยะอยู่ (ขอบคุณจริงๆจากใจ จุ๊บๆ) เข้าเรื่องดีกว่าเดี่ยวยาวอะไรนะลืม เออขิงดองของกินล้างรสชาติที่ค้างอยู่ในปากของชาวญี่ปุ่นของกินคู่กับของย่างมันๆหอมๆของคนไทยวันนี้กับข้าวกับปลาขอนำเสนอขิงดองมาทำไปพร้อมกันเถอะพวกเรา ฮูเล!!

ส่วนผสม

     ขิงอ่อน                    500           กรัม
     น้ำตาลทราย            1/2                ถ้วย     เกลือป่น                   3               ช้อนโต๊ะ     น้ำส้มสายชู            2
                ถ้วย

วิธีทำ


     1. ตัดล้างให้สะอาดไม่มีดินปอกเปลือกแล้วล้างอีกครั้งหนึ่ง ซอยบางๆแผ่นแช่ในน้ำเกลือในอัตราส่วนเกลือ 2 ช้อนต่อน้ำครึ่งลิตรเพื่อไม่ให้เค็มจนเกินให้ท่วมประมาณ 1 ชั่วโมง บีบขิงขึ้นจากน้ำเกลือบรรจุในภาชนะในมีพื้นที่สำหรับอากาศอยู่บ้างไม่ควรอัดแน่จนเกินไป

     2. ผสมน้ำส้มสายชู  น้ำตาล เกลือ ตั้งไฟคนจนน้ำตาลละลายปล่อยให้เดือดแล้วกรอง  เทน้ำร้อนๆลงในภาชนะแล้วปิดฝาให้แน่ทิ้งไว้นาน 2 - 4 ชั่วโมงก็พร้อมรับประทาน



จะว่าอัดอั้นตันใจก็ว่าได้แต่พอได้กับมาอยู่ที่ตรงนี้อีกครั้งนั้นก็เหมือนจะรู้สึกดี
อย่างบอกไม่ถูกเอาเป็นว่าถ้าไม่มีธุระอะไรให้วุ่นวายอีกก็จะกลับมา
บอกเล่าสูตรอาหารสไตล์เพื่อนบอกต่อกันให้ฟังต่อก็แล้วกัน
(มีใครอยากจะฟังด้วยรึ)
วันนี้ข้าพเจ้าในนามของกับข้าวกับปลาก็ต้องลาไปก่อนส่วนคราวหน้าจะเป็น
เมนูอาหารไทย ขนมไทย หรือจะเป็นน้ำผักและผลไม้เพื่อสุขภาพอะไรโปรดติดตามกันต่อไป


###################################################
     SEE U ;)


I came back

วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558





     เมนูที่ ก็นะต้มทำเป็นบ้างหละกับเมนูไข่ๆที่ต้องทำซักครั้งหนึ่งในชีวิตไข่น้ำเมนูที่เป็นที่สุดแห่งความง่าย ( ใครไม่เคยทำต้องพิจารณาหาแฟนให้ทำให้นะ ) กับเมนูอาหารไทยๆที่เหมาะกับยุคสมัยปัจจุบัน ทั้งความรวดเร็วในการทำ ส่วนผสมที่หาได้ง่าย รสชาติที่กินได้ง่ายๆคล่องคอ วันนี้กับข้าวกับปลาของเราขอนำเสนอ ไข่น้ำ 


ส่วนผสม

     1.  ไข่ไก่                                                               2 ฟอง ( เอาเป็นเบอร์ 1 ก็พอ เหตุผลก็ กดเพื่อชม )
     2.  ผักกาดขาว                                                      1 หัว ( เวลาเลือกให้เลือกที่เล็กและไม่เบามากเพราะหัวเล็กเวลาต้มจะหวานกว่า )
     3.  หมูสับ                                                          200 กรัม ( ปริมาณต่อ 1 ถ้วยไม่ใส่เยอะมากเพราะทำให้น้ำซุปมันจากมันหมู )
     4.  ผงปรุงรส                                                         2 ช้อนชา
     5.  น้ำเปล่า                                                           2 ถ้วย
     6.  ผักชี 
     7.  ต้นหอม 
     8.  พริกไทยป่น
     9.  เกลือ

วิธีทำ

     1.  ทำไข่เจียวก่อน ตอกไข่ใส่ถ้วยหรือชามใส่น้ำเย็นจัดๆเล็กน้อยตีให้เข้ากันปรุงรสผงปรุงรสเล็กน้อย
     2.  ตั้งกระทะกับน้ำมันไฟกลางทอดไข่เจียวให้สุกพอสวยแล้วนำขึ้นมาพักน้ำมันให้มากที่สุดและหั่นเป็นคำ
     3.  นำตั้งน้ำในหม้อใส่เกลือเล็กน้อย รอจนเกลือละลายเร่งไฟให้แรงจึงเติมหมูสับที่ทำขนาดพอคำลงไป พอหมูเริ่มสุก ( ชิ้นหมูเปลี่ยนสี ) นำผักกาดขาวที่ล้างทำความสะอาดแล้วหั่นให้พอคำลงไปต้มด้วย
     4.  รอจนผักและหมูสุกให้ลงไฟลงและใส่ไข่เจียวที่หั่นไว้และต้มหอมลงไปต้มต่อไปอีก 2 นาทีเพื่อให้น้ำซุปเข้าเนื้อไข่เจียว เวลาเสิร์ฟก็ให้เสิร์ฟพร้อมกับโรยหน้าด้วยผักซีและพริกไทยปุ่น





ก็นำจริงๆแล้วไข่น้ำเนี่ยกินบ่อยพอๆกับมาม่าเลยทีเดียวเพราะหิวเมื่อไหร่ก็ทำได้
รอไม่นานกินง่ายโอ้ยเหตุผลมากมายในการทำ แต่จากประสบการณ์ตรงเลย
คือเคยไปเจอไข่น้ำที่ใส่น้ำปลาลงไปต้มในน้ำซุป ( โอ้ว ม่ายยยยยย )
อยากจะเดินไปบอกคนทำมากว่าซุปเค้าใช้เกลือไม่ใช่น้ำปลา
มันเหม็นคาวแต่ก็ต้องทนกินจนหมดเพราะคนทำ
แบบว่าตัวโค - ตะ - ระ ยักเลยละ ( T-T )
วันนี้กับข้าวกับปลาคงต้องลาไปเท่านี้ก่อนส่วนคราวหน้าจะเป็น
เมนูอาหารไทย ขนมไทย หรือจะเป็นน้ำผักและผลไม้เพื่อสุขภาพอะไรโปรดติดตามกันต่อไป


###################################################
     


SEE U ;)
หมึกผัดไข่เค็ม


     ช่วงวันหยุดได้ไปร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวๆพัทยา ( จำชื่อม่ายด้ายยย ) ก็ได้ลองสั่งหมึกผัดไข่เค็มมากินกันปรากฎว่าติดใจในรสชาติไม่ว่าจะเป็นความสดของหมึกที่ให้รสสัมผัสที่หวานไม่มีคาว หรือจะเป็นความมันของไข่แดงเค็ม ทำให้อยากจะนำเสนอเมนูอาหารไทยที่ถูกปากหลายๆคนแน่ๆนั่นคือ หมึกผัดไข่เค็ม มาไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงกับข้าวกับปลาของเราวันนี้จะเริ่มแล้วน้า

ส่วนผสม
     
     1.  หมึก                                          1 ตัว
     2.  ไข่เค็ม                                             1 ฟอง
     3.  ซอสหอยนางรม                              2 ช้อนโต๊ะ   
     4.  พริกไทย                                        1/4 ช้อนชา
     5.  น้ำตาล                                             1 ช้อนชา
     6.  ผงปรุงรส                                          2 ช้อนชา
     7.  ต้นหอม                                             2 ต้น
     8.  กระเทียม

วิธีทำ

     1. ทำความสะอาดหมึกให้เรียบร้อยเพื่อความสวยงามจะทำบั้งหมึกด้วยก็ได้นะได้น่ากิน
     2. ตั้งน้ำมันในกระทะให้ร้อน นำหมึกลงผัดในกระทะกับกระเทียมสับละเอียดให้หมึกสุกพอสมควร ( อย่านานหมึกจะแข็ง )
     3. ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม น้ำตาล พริกไทย และผงปรุงรสให้รสอย่างเค็มนำเพราะเราจะได้ความเค็มจากไข่เค็มอีก
     4. เติมไข่เค็มลงไป ( เคล็ดลับเล็กน้อยถ้าจะให้ความมันเข้ากระจายทั่วจานให้นำไข่แดงเค็มมายีให้พอแหลกก่อนลงไปผัด ) อย่าผัดนานและดับไฟลงในต้นหอมหั่นทอนลงไปผัดในกระทะที่ยังร้อน ก็จะได้หมึกผัดไข่เค็มแสนอร่อยพร้อมเสิร์ฟกันแล้ว



หมึกผัดไข่เค็ม นั้นจริงๆแล้วเคยกินตั้งแต่ตอนอยู่ที่บ้านแล้วแต่พอได้ไปกินที่ร้านอาหาร
แล้วนั้นพบว่า ( ฮา ฮา ) ที่เคยกินมามันยังไม่อร่อยเลยเนื้อหมึกนี่นุ่มหวานไข่แดงนี่มัน
อร่อยมากไม่รู้จะอธิบายยังไงดีเอาเป็นว่าอร่อยมากๆทำให้รู้สึกว่าอาหารไทย
ก็ไม่แพ้อาหารชาติใดในโลกเลยทีเดียว
วันนี้กับข้าวกับปลาคงต้องลาไปเท่านี้ก่อนส่วนครั้งหน้าเราจะมานำเสนอ
เมนูอาหารไทย ขนมไทย หรือจะเป็นน้ำผักและผลไม้เพื่อสุขภาพอะไรนั้นโปรดติดตามกันต่อไป


###################################################


SEE U ;)
     

วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ขนมสาลี่


     วันตรุษจีนแล้วก็เราๆก็นำความโชคดีตามความเชื่อของประเทศจีนก็ได้ไปเจอเข้ากับ ขนมสาลี่ก็นึกย้อนไปว่าเอ๋แล้วไอ้ขนมสาลี่เนี่ยมันต่างกับขนมปุยฝ้ายยังไง จากที่ได้สอบถามผู้เฒ่าผู้แก่มาก็พบว่าขนมลาลี่นั้นจะให้ผิวสัมผัสที่นุ้นกว่าส่วนขนมปุยฝ้ายจะมีเนื้อไม่จับตัวกันแบบบางเบา มาถึงตรงนี้ยิ่งทำให้สงสัยเข้าไปใหญ่ว่ามันทำอย่างไรแล้วทำไมมันถึงเหมือนกันซะนี่กะไร มาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าวันนี้กับข้าวกับปลาจะขอนำเสนอ ขนมสาลี่กัน

ส่วนผสม

     1.  แป้งสาลี              4 ถ้วย
     2.  ไข่ไก่                  3 ถ้วย 
     3.  ครีม เอส พี         1 ช้อนโต๊ะ 
     4.  น้ำาตาลทราย     3 ถ้วย 
     5.  น้ำมะนาว           1 ช้อนโต๊ะ 
     6.  น้ำเย็น             1/2 ถ้วย 
     7.  กลิ่นปรุงแต่งตามชอบใจ 
     8.  สีผสมอาหารเล็กน้อย

วิธีทำ

     1.  นำไข่ไก่ น้ำตาลทราย และน้ำ ตีจนน้ำตาลละลายฟู นำครีม เอส พี ใส่ลงไปตีจนไข่ฟูขึ้นขาว ใส่สี กลิ่นน้ำหอม น้ำมะนาว
     2.  ผสมแป้งที่ร่อนแล้วกับไข่ไก่คนเบา ๆ จนแป้งเข้ากันดี
     3.  เทใส่แม่พิมพ์แล้วนำไปนึ่งในน้ำเดือดพล่าน ไฟแรง ประมาณ 20 นาที หรือจนกว่าขนมจะสุกเช็คด้วยการเอาซ้อมจิ่มดูก็จะได้ขนมสาลี่พร้อมเสิร์ฟแล้ว




ดูๆวิธีทำแล้วก็คล้ายๆกับการทำขนมปุยฝ้ายนะแต่วิธีทำขนมสาลี่ก็จะใช้แป้งที่
ร่อนทำกันเลยทำให้ขนมสาลี่นั้นมีความนุ่มกว่าและอร่อยกว่า ( มั้งนะ )
วันตรุษจีนเวียนมาอีกรอบแล้วใครที่ยังไม่ได้เริ่มทำอะไรก็ขอให้
เริ่มทำได้แล้วส่วนใครที่จะทำกิจการอะไรก็ขอให้เป็นปีที่ดี
สำหรับว่านี้กับข้าวกับปลาก็ขอลาไปก่อนส่วนในคราวหน้าจะมานำเสนอ
เมนูอาหารไทย ขนมไทย หรือจะเป็นน้ำผักและผลไม้เพื่อสุขภาพอะไรนั้นก็โปรดติดตามกันต่อไป


#############################################################

SEE U ;)

วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ส้มตำ


     ได้เที่ยวทะเลช่วงวันหยุดมา 2 วัน ก็ยังจะไปกินส้มตำ ( ไปทะเลกินอาหารอีสาน T-T ) ปรากฎว่าไม่อร่อยเลยยย ทำเอาเซงกันไปตามกันๆวันนี้กับข้าวกับปลาของเราก็เลยนึกอยากจะมานำเสนอเมนูอาหารไทยสไตล์อีสานที่หลายๆคนต้องเคยลอง ในรสชาติที่ผัดร้อน ส่วนผสมที่ใส่ได้มากมายหลายอย่างตั้งแต่ อาหารสดไป จนถึงผลไม้หลากชนิดกันเลยทีเดียว ส้มตำของเรานี้เองมาไม่ต้องยาวไปมากกว่านี้และ

ส่วนผสม

     1.  มะละกอดิบ                                     1 ลูก
     2.  มะเขือเทศลูกใหญ่                          1 ลูก
     3.  น้ำมะนาว                                         1 ลูก
     4.  น้ำมะขามเปียก                             1/2 ช้อนโต๊ะ
     5.  น้ำปลา                                             2 ช้อนโต๊ะ
     6.  น้ำตาลปี๊ป                                        2 ช้อนโต๊ะ
     7.  กระเทียมไทย                                  3 กลีบ
     8.  พริกขี้หนูสด                                     5 เม็ด
     10. ถั่วลิสงคั่ว                                       2 ช้อนโต๊ะ
     11. ผงชูรส                                         1/3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

     1.   นำมะละกอดิบมาปอกเปลือก ล้างน้ำให้สะอาด แบ่งครึ่ง ขูดหรือจะสับเป็นเส้นๆเตรียมไว้ให้พอกิน
     2.  นำกระเทียม พริกขี้หนูสด มาตำให้พอแหลก ปรุงรสโดยใส่น้ำมะนาว น้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ผงชูรส ให้เข้ากัน
     3.  นำเส้นมะละกอลงไปคลุกเค้า ใส่มะเขือเทศตำเบาๆตักขึ้นพร้อมโรยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่วก็จะได้ส้มตำพร้อมเสิร์ฟ




ส้มตำในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ส้มตำไทยเดิมๆที่รสชาติไม่เผ็ดร้อนมาก
ไปจนถึงส้มตำผลไม้ที่หลายๆอย่างต้องคิดกันเลยว่ามันกินได้หรือไม่ ( ตำมะพร้าว -_-)
และส้มตำก็คงยังพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดอย่างแน่นอนเพราะคนไทย ก็ต้อง
คู่กับอาหารไทยๆ เพราะอาหารไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก
ในวันนี้กับข้าวกับปลาก็ขอลาไปเท่านี้ก่อนส่วนในวันหน้าจะเป็น
เมนูอาหารไทย เมนูขนมไทย หรือจะเป็นน้ำผักและผลไม้เพื่อสุขภาพอย่างไหนแล้ว
หละก็โปรดติดตามกันต่อไป



#########################################################

SEE U ;)